ตั้งข้อสังเกต เหตุไฟไหม้เรือสินค้าแหลมฉบัง ลักลอบซุกสารเคมีอันตราย
ตั้งข้อสังเกต เหตุไฟไหม้เรือสินค้าแหลมฉบัง ลักลอบซุกสารเคมีอันตราย
โดย ไทยรัฐออนไลน์
25 พ.ค. 2562 22:06 น.
แหล่งข่าวระดับสูง ชี้แจงเหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ บนเรือบรรทุกสินค้า ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง อาจมีการลักลอบนำสารเคมีอันตราย “โซเดียมไฮโปคลอไรท์” ขึ้นบนเรือ จำนวน 13 ตู้ โดยไม่สำแดงต่อเจ้าหน้าที่
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 25 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ บนเรือบรรทุกสินค้า KMTC HONGKONG บริเวณท่าเทียบเรือ เอ 2 เขตท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งได้โทรศพท์สอบถามแหล่งข่าวระดับสูง โดยเปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุ ทางท่าเรือแหลมฉบังได้มีบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขึ้นไปตรวจสอบบนเรือบรรทุกสินค้าดังกล่าว ซึ่งพบว่ายังคงมีตู้คอนเทนเนอร์ อีกจำนวน 2 ใบ ที่อยู่บริเวณจุดระวางเรือ ยังคงมีความร้อนระอุอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช่เครนยกตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 2 ใบ ลงมาวางไว้ที่บริเวณท่าเทียบเรือเพื่อทำการดับเพลิงต่อไป
ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ทางเรือบรรทุกสินค้า KMTC HONGKONG อาจมีการลักลอบนำสินค้าอันตราย หรือสารเคมีอันตราย มาบรรจุซุกซ่อนไว้ภายในตู้คอนเทนเนอร์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทราบว่า สารที่เกิดระเบิดนั้น เป็นสารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (Sodium hypochlorite) บรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 13 ตู้ ซุกซ่อนอยู่บนเรือ และจากตรวจสอบฐานข้อมูลการนำเข้าและส่งออกตู้คอนเทนเนอร์บนเรือดังกล่าว พบว่าไม่มีการสำแดงการนำตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 13 ใบ เข้ามาในเขตท่าเรือแหลมฉบัง อย่างไรก็ตามขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ ทำงานสักระยะหนึ่ง เพื่อเข้าทำการสอบสวนและสรุปสาเหตุที่แท้จริงและจะมีการเปิดข้อมูลให้ทราบต่อไป
ส่วนประเด็นในเรื่องของผลกระทบทั้งทางชายฝั่ง และทางทะเลนั้น ทางกรมควบคุมมลพิษ พร้อมด้วยสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 13, สำนักงานทรัพยากรกรธรรมชาติ, สิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง และ ปภ.ชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเนอร์ ท่าเรือแหลมฉบัง พบว่า ตู้คอนเทนเนอร์หลายร้อยใบถูกเพลิงไหม้ จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศทางชายฝั่งในเบื้องต้น พบว่ามีค่าสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Total VOCs) อยู่ในช่วง1.2-2.4 ppm ค่าสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) อยู่ในช่วง 0.92-1.96 ppm ซึ่งมีค่าเกินกว่าค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน ระดับที่ 1 กำหนดค่า 0.9 ppm ซึ่งเกินค่ามาตรฐานเล็กน้อย ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนังอักเสบ และระคายเคืองตา
ในส่วนของผลกระทบทางทะเลนั้น ทางสำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล เป็นผู้ดูแลร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีคราบน้ำมันรั่วไหลออกมาจำนวนหนึ่ง และเศษซากจากการระเบิดของตู้คอนเทนเนอร์ กระจายเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการนำบูมกั้นคราบน้ำมัน มากั้นบริเวณรอบๆ เรือดังกล่าวแล้ว ส่วนเศษซากที่ระเบิดนั้น ได้มีการวางกำลังจัดเก็บแล้ว