มาเริ่มเรียนรู้เบื้องต้นกันครับ หากคิดว่าดีคิดว่าชอบเหมาะกับสถานประกอบกิจการของท่านโทรมาพูดคุยกันได้ครับ
โครงการกำจัดพฤติกรรมเสี่ยงBehavior Based Safety (BBS)
1. บทนำ (Introduction)
ทำไมใส่อุปกรณ์ไปที่สถานที่ทำงานมากมาย แต่อุบัติเหตุจึงไม่ลด ก็มาดูว่าคงอยู่ที่พฤติกรรมคนการทำโครงการกำจัดพฤติกรรมเสี่ยง บางแห่งต้องจ้างคนที่ปรึกษามาช่วย วันละเป็นแสนบาท ถูกๆ ก็เป็นหมื่นบาท หากเราสนใจก็มาฟังเล่าสู่กันฟังฟรีๆ
การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย (Safety Culture) นั่นสำคัญ ไปเน้นที่คนที่พฤติกรรมคนโดยมีทิศทางที่วัฒนธรรมความปลอดภัย และไม่มีประณีประนอมหากไม่ปลอดภัย
การสร้างวัฒนธรรมนั้นไม่ง่ายต้องใช้เวลานาน ค่อยๆ เปลี่ยนไป สร้างได้บ้างสร้างไม่ได้บ้าง ต้องใช้ความละเอียดอ่อน
2. โครงสร้างความปลอดภัย (Safety Base Structure)
โครงสร้างปิรามิดจากสถิติอุบัติเหตุมีดังนี้
- อุบัติเหตุร้ายแรงมีน้อยที่ถึงแก่ชีวิต (1 ส่วน)
- บาดเจ็บรุนแรงขึ้นหยุดงาน (30 ส่วน)
- บาดเจ็บเล็กน้อยขั้นปฐมพยาบาล (300 ส่วน)
- เกือบเกิดอุบัติเหตุ (3,000 ส่วน)
- เกิดสภาพเสี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง (30,000 ส่วน)
การทำการรณรงค์ก็มีการดูที่สภาพเสี่ยง (Unsafe Condition) และพฤติกรรมเสี่ยง (Unsafe Act) มีการรณรงค์เกี่ยวอุบัติเหตุ (Near Miss Champion) การรณรงค์พฤติกรรมเสี่ยง (Unsafe Killer)
การลดพฤติกรรมเสี่ยง อุบัติเหตุก็ไม่เกิด การแก้ที่สภาพงาน โดยการใส่การ์ดใส่อุปกรณ์ป้องกันเครื่องจักรนั้นแก้ง่าย แต่การแก้พฤติกรรมนั้นยาก
ความปลอดภัย คือการไม่เกิดอุบัติเหตุจริงหรือเปล่า คำตอบคืออาจไม่จริง เพราะความเสี่ยง ยังมีอยู่แต่ยังไม่ครบรอบการเกิด เพราะการเกิดครบรอบยาวนาน เช่นเครื่องจักรไม่มีการ์ดครอบเลย แต่ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยนั่นคือ อาจเป็นเพราะคนน้อย คนไม่เสี่ยง แต่สภาพหน้างานยังคงมีความเสี่ยงอยู่
3. การกำจัดพฤติกรรมเสี่ยง (Behavior-Based Safety)
BBS คือกระบวนการในการวิเคราะห์ค้นหาและคัดเลือกพฤติกรรมเสี่ยงแล้วดำเนินการกำจัดออกไป
BBS จึงเป็นการแก้ไขที่พื้นฐานของการเกิดอุบัติเหตุ “พฤติกรรมเสี่ยง”
พฤติกรรมเป็นสิ่งที่สังเกตได้และวัดได้ ความปลอดภัยจากการทำงานเกิดจาก
- ตัวคน
- สภาพแวดล้อม
- พฤติกรรมคนคนทำงานที่ปลอดภัย
- ความสามารถร่างกายที่เหมาะสม
- ประสบการณ์ที่มากกว่า
- การฝึกอบรมที่ดีสิ่งแวดล้อม
- เครื่องจักรดี
- เครื่องมือดี
- กระบวนการทำงานดีพฤติกรรม
- มีพฤติกรรมปลอดภัย
คนเราทำงานมักมีพื้นฐานพฤติกรรมดั่งเดิม (สันดาน,สันดานดิบ) ประมาณ 95% คนทำงานมาจากหลากหลายที่ การทานอาหารที่หนึ่งแล้วเก็บจาน เพราะว่ามีกฎกติกาให้ทำก็ทำ พอมาที่โรงงานไม่เก็บ เพราะไม่มีกติกาบังคับ ถามเรื่องจิตใจอาจไม่ชอบก็ได้ การสร้างจิตสำนึกที่ดีสร้างยาก ก็เลยมาเน้นที่สร้างพฤติกรรมคน พฤติกรรมอยากมีเมียน้อย จิตอยากมี แต่มีไม่ได้เพราะเมียมาคุมอยู่ เมียบอกจิตคิดได้แต่อย่ามีเมียน้อยก็แล้วกัน
พฤติกรรมองค์กรอยากให้คนในโรงงานเข้าโรงงานแล้วต้องใส่หมวกนิรภัยและรองเท้านิรภัย หากคนส่วนใหญ่ใส่หมวก ผู้มาใหม่ก็ต้องใส่ตาม มิเช่นนั้นจะเห็นหัวดำแปลกๆ คนรอบๆ ก็จะมองตาม การขับเคลื่อนพฤติกรรมอาจไม่ต้องพูดแต่อาจใช้คนหมู่มากมาทำ คนมาใหม่ก็ทำตามโครงสร้างพฤติกรรม
- ต้องมีตัวกระตุ้นสิ่งเร้า (Antecedent) อาจเป็นสิ่งของ คน เหตุการณ์ สิ่งแวดล้อม
- เกิดพฤติกรรม (Behavior) เป็นสิ่งที่เราแสดงออกมา
- ผลเกิดต่อเนื่อง (Consequences) เป็นผลที่เกิดขึ้นจากการทำเป็นด้าน + และ –กฎพื้นฐานในเรื่องพฤติกรรม
- พฤติกรรมใดที่กระทำแล้วมีผลดีหรือประสบความสำเร็จจะถูกสนับสนุนให้ทำอีกและนำไปสู่การคิดเป็นนิสัย - พฤติกรรมใดที่กระทำแล้วมีผลเสีย ผิดหวังจะมีแนวโน้มไม่อีกอีก
การทำพฤติกรรมเสี่ยงแล้วทำให้เกิดเร็วดี ง่าย ก็จะเกิดพฤติกรรมทำอีกหากไม่เกิดผลร้ายขึ้นมาแต่หากขับรถย้อนศรแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา หลั่งน้ำตามาแล้ว ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา หากเห็นโลงศพก็หลั่งน้ำตาก็จะเปลี่ยนพฤติกรรม
- พฤติกรรมไม่ปลอดภัย
- เกิดความผิดพลาด/เสียหาย
- แนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลง
- พฤติกรรมที่ปลอดภัย
- เกิดพฤติกรรมที่ทำซ้ำ
เรื่องบางเรื่องต้องเจอเองสัมผัสเอง เตารีดร้อนถูกสักครั้งก็จะกลัว แต่บางอย่างก็เรียนรู้จากคนอื่นที่บาดเจ็บหากเกิดพฤติกรรม ดังนี้
- พฤติกรรมไม่ปลอดภัย
- เกิดผลดี
- ก็จะทำซ้ำของเดิม
- พฤติกรรมเสี่ยงยังคงมีอยู่
- รอวันเกิดอุบัติเหตุ
กิจกรรมความปลอดภัยทำไมต้องมากับรางวัลทำแล้วได้รางวัล ทำดีถูกด่า ทำเสี่ยงได้ในคำชมว่าเร็วดีก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม กิจกรรมที่ทำดี คำชมก็จะรักษาพฤติกรรมความปลอดภัยที่ดี พฤติกรรมก็สามารถสร้างได้ทั้งทาง + และทาง -
- การส่งเสริมทาง + โดยการให้คำชมให้รางวัล
- การใช้วิธีการทาง - โดยการลงโทษ ตำหนิ ดุด่า ต่อว่า
พฤติกรรมที่อยากได้ควรใช้ทางบวก + แต่หลายอย่างก็จำเป็นต้องใช้ทางลบโดยการปรับและลงโทษ การจับผิด
4. ยุทธวิธีในการแก้ไขพฤติกรรม (Behavior Modification)
- เพิ่มความสะดวกสบายหรือผลประโยชน์ให้กับผู้มีพฤติกรรมที่ปลอดภัย เช่นระยะทางไกลเบิกของได้ง่าย
- กำจัดสิ่งที่ขัดขวางพฤติกรรมที่ปลอดภัย
- เพิ่มความไม่สะดวกสบายหรือลดผลประโยชน์ให้กับผู้มีพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยทำให้เขาไม่อยากเสี่ยง
5. หลักการของ BBS
มุ่งเน้นการสังเกตพฤติกรรมโดยการไปดูที่หน้างานแล้วดูว่าเขาทำงานอย่างไร (Task Observation) โดยเอาคู่มือการทำงานมาดูแล้วไปเทียบกับพฤติกรรมที่หน้างานจริงว่าเตกต่างกันแค่ไหน มุ่งเน้นกระตุ้นการทำพฤติกรรมเชิงบวก ไม่ใช่การจับผิดแต่บอกว่าทำถูกอย่างไรบอกให้เขาทราบ
หากเขาทำพฤติกรรมเสี่ยงเราก็บอกว่าพฤติกรรมปลอดภัยเป็นอย่างไร
เราดูคนปลอดภัยกับสถานที่ปลอดภัย การบาดเจ็บก็คือ ความผิดพลาดของระบบการจัดการ กระบวนการ BBS คือการวัดผล
การใช้แรงกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมเชิงบวก BBS มี 4 ขั้นตอน
1. สังเกตการณ์การทำงาน
2. รวบรวมข้อมูล
3. ปรับปรุงเป้าหมาย
4. เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ขั้นตอน BBS มีดังนี้
1. ชี้แจงหลักการ BBS
2. ค้นหาพฤติกรรมเสี่ยงโดยกลุ่มงานของตัวเอง
3. คัดเลือกพฤติกรรมเสี่ยง
4. การสื่อสารพฤติกรรม
5. จากเดิมมีกี่ %
6. เข้าสังเกตการทำงานแต่ละกลุ่ม
7. รายงานผล
8. เสนอแนะการค้นหาพฤติกรรมเสี่ยง
พบบ่อยๆ หรือเคยส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุลองนึกถึงอุบัติเหตุเก่าๆ ที่เคยเกิดมีอะไรบ้าง
พอนึกถึงพฤติกรรมเสี่ยงต้องนึกถึงการกระทำ เช่นไม่ใส่หมวก สูบบุหรี่ ไม่ใส่เข็มขัดนิรภัย ขับรถเร็ว ไม่ใส่ชุดเคลียร์ฝุ่น ถอดการ์ดออก ไม่ใส่หน้ากากกันฝุ่น ไม่อ่านฉลากเตือน ใช้เครื่องมือไม่ปลอดภัยเอามาใช้ เมาแล้วขับ ไม่หยุดเครื่องจักรขณะเคลียร์ฝุ่นไม่แขวนป้ายก่อนเข้าทำงาน หยอกล้อขณะทำงาน ลัดขั้นตอนเคยชิน? (เป็นอาการยังไม่ชัด) ข้อรถเร็วสูงถอยโดยไม่ให้สัญญาณพฤติกรรมควรจับต้องได้วัดได้ เช่นขับรถเร็วเกิน 30 กม./ชม. ในเขตโรงงานอยู่บ่อยๆ ความเสี่ยงแต่ละงานแตกต่างกันการคัดเลือกพฤติกรรม
- พิจารณาจากผลของพฤติกรรมเสี่ยง (รุนแรง ถี่บ่อย)
- ความยากง่ายในการแก้ไข (เลือกง่ายก่อนเพื่อสร้างกำลังใจ)
- ความพร้อมที่จะทำ/ความอยากทำ (สิ่งสนับสนุนต่างๆ)
- สังเกตและวัดได้
พฤติกรรมเสี่ยง เคยเกิดพบบ่อยๆ การส่งผลจัดลำดับความสำคัญอย่างไรมีสถานที่ทำงานอุบัติเหตุ ก่อน-หลัง การสื่อสารพฤติกรรม ชี้แจงสื่อสารพฤติกรรมความปลอดภัยที่ต้องการให้พนักงานแลคู่ธุรกิจทราบ
- การไม่ใส่หมวกขณะทำงานก็เป็นพฤติกรรมใส่หมวกในที่ทำงาน
- การคุยกันให้ทราบเป็นหน้าที่ของทุกตนๆ ที่ต้องช่วยกันเตือนช่วยกันบอกสื่อสารให้ทราบและเข้าใจให้ตรงกันไม่ใช่เข้าใจไปคนละทาง
- สอนให้ผู้จัดการกลุ่มทราบจากที่ประชุมแล้วไม่ไปเล่าต่ออย่างนี้มีปัญหากระบวนการสังเกตพฤติกรรม 1. วางแผนจะไปสังเกตที่ไหน เมื่อไป เรื่องอะไร
2. การสังเกต พฤติกรรมปลอดภัยและเสี่ยง
3. การให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงและให้กำลังใจ
4. การบันทึกว่าพบอะไรทำไมจึงเกิดขึ้นจะทำอย่างไรพิจารณาสถานการณ์ต่อไป
- พบลูกน้องทำงานดีก็ต้องชม
- พบลูกน้องทำพฤติกรรมเสี่ยงใช้หน้ากากกระดาษมาเชื่อมโลหะก็เข้าไปสอบถามว่ารู้หรือเปล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่นระวังไฟจะลุกที่กระดาษ
- การไม่ว่าก็แสดงว่ายอมรับและทำต่อดังนั้นหากพบพฤติกรรมไม่ดีหรือเสี่ยงต้องตักเตือน
- หากพฤติกรรมดีแล้ว เฉยๆ
- ดังนั้นต้อง “ช่วยกันชม ช่วยกันเตือน” ไม่ต้องแยกหน่วยงานก็จะเกิดพฤติกรรมความปลอดภัยในองค์กรเป็นองค์กรความปลอดภัย
- อย่าลืม...พฤติกรรมที่คุณทำวันนี้จะมีผลถึงพฤติกรรมของลูกน้องในอนาคต
- หากคนพูดไม่ทำแล้วมาสอนคนอื่นย่อมไม่มีใครเชื่อ
- ทุกคนจะมองไป พนักงานปฏิบัติการก็มองหัวหน้างานหัวหน้างานก็มองผู้จัดการผู้จัดการก็จะเกิดการละเลย
- การละเลยลูกค้าเก่าแล้วแต่เอาใจลูกค้าใหม่อย่างนี้อาจรักษาลูกค้าเก่าไม่ได้
- การชมก็ต้องบอกด้วยว่าเราชมเรื่องอะไร
- การชมอย่าลืมจบด้วยความเป็นห่วงใยจะสร้างความประทับใจ
- การตักเตือนถามด้วยว่าทำไมจึงทำ บอกอันตรายที่จะเกิดขึ้นให้ทราบมีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง (มีติดขัดอะไรหรือเปล่ามีอุปสรรคอะไรบ้าง) จะให้ช่วยอะไรบ้าง
- เมื่อพบพฤติกรรมเสี่ยงพนักงานใหม่ไม่ใช่ปลอกแขน
- ปลอกแขนหายเสีย 200 บาท ก็เลยเก็บไว้ที่บ้านอย่างนี้หรือเปล่า
- แต่เราอาจคิดว่า เขาอายหรือเชย
- การให้ความช่วยเหลือ
- ถามอุปสรรค์
- จะช่วยทำอะไรให้บ้าง เบิกให้เขียนให้
- หาทางปรับพฤติกรรม
- การตักเตือนทุกครั้งตรวจด้วย ความเป็นห่วงใย
- ความห่วงใย
- มารถเก๋งกลับรถตู้ (รถพยาบาล)
- มาทำงานแล้วครบอาการ 32 ถือว่าโชคดีการให้คำแนะนำ
- พูดจาภาษาเดียวกันสื่อสารง่ายๆ
- แสดงความห่วงใยด้วยความรู้สึกมากกว่าคำพูด
- น้ำเสียง “ห่วงใย เป็นมิตร”
- พูดถึงเรื่องพฤติกรรมไม่ใช่บุคคล
- พูดกับเขาเรื่องความปลอดภัยพร้อมกับงานของเขาเป็นเรื่องเดียวกัน
- มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหา
- จบด้วย “เป็นห่วงใยคุณนะ”ตัวอย่างเหตุการณ์
หัวหน้างานเห็นลูกน้องไม่ใส่แว่นตาแล้วก็เข้าไปส่งให้ใส่แว่นตาแล้วก็เดินจากไป หัวหน้าขาดทักษะอะไรบ้างมีไม่สอบถามสาเหตุ ไม่อธิบายเหตุอันตราย ไม่แนะนำจะช่วยอะไรบ้างไหมไม่แสดงความห่วงใยการกำหนดเป้าหมาย
- แต่ละเซลล์ต้องหาฐานข้อมูลในพฤติกรรมที่กำหนด
- ตั้งเป้าหมายเพิ่มพฤติกรรมที่ปลอดภัยนั้นๆ ภายใน 2 เดือน (ก่อนแก้ไข-หลังแก้ไข) เช่นการใส่หมวกนิรภัย 70% เพิ่มเป็น 100% ภายใน 60 วัน นับจากวัน Kick Off การสังเกตพฤติกรรมโดยผู้สังเกตแต่ละเซลส์จะส่งตัวแทนมาเป็นกลุ่มผู้สังเกตุ การซุ่มเฝ้าดูโดยการไปจับถูก ไม่ใช่ จับผิดแบบฟอร์มการสังเกตุพฤติกรรม มีหน่วยงานพฤติกรรมที่ดูวันที่สังเกตุ พื้นที่ที่กำหนดพฤติกรรมปลอดภัย (นับแต้ม \\) %พฤติกรรมปลอดภัย (พฤติกรรมปลอดภัย/(พฤติกรรมปลอดภัย-พฤติกรรมเสี่ยง) คูณ 100 หลักการคือ ใครเข้าพื้นที่เราต้องปฎิบัติตามกฎที่เรากำหนด
BBS เน้นวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่มีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วก็เข้าไปแนะนำ หาทางช่วยเหลือทำการช่วยเหลือและจบด้วยความห่วงใย หากมีคนไม่เชื่อฟังก็ต้องวิเคราะห์ว่าทำไม เช่นไม่เคยชินไม่ทราบทำมานานแล้วไม่เคยลงโทษเขาหาอุปกรณ์ไม่ได้เข้าเขตได้ง่ายคุยกับนายของเขาหรือเปล่านายเขาไม่สนับสนุนหรือเปล่าการดำเนินโครงการ BBS
กำจัดพฤติกรรมเสี่ยง 2 เดือน ต่อพฤติกรรมเมื่อแก้ไขตามเป้าหมายให้แก้ไขพฤติกรรมต่อไป การตรวจพฤติกรรมที่ 2 ก็จะตรวจพฤติกรรมที่ 1 ร่วมด้วยจัดการสลับผู้เฝ้าสังเกตุหลักการ BBS
- จับถูกไม่จับผิดดูว่าพฤติกรรมที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นขนาดไหน
- ต้องอำนวยความสะดวกให้การปฎิบัติเป็นไปตามพฤติกรรมที่กำหนดไม่ว่าจะเป็นการเบิกของและอื่นๆ
- พฤติกรรมเสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุการบาดเจ็บ
- พฤติกรรมที่ปลอดภัยจะป้องกันอุบัติเหตุ
- กระบวนการป้องกันการบาดเจ็บ
6. สรุป BBS เราพร้อมหรือยังเราต้องเข้าใจ BBS แต่ละกลุ่มงานก็ย่อมแตกต่างกันแต่บางงานเช่นงานซ่อมอาจมีหลายอย่างคล้ายๆ กัน มาคิดร่วมกันได้
การไปสังเกตุประเมินงานก็จะรู้ข้อมูลพื้นฐานตั้งเป้าหมายแต่ละกลุ่มเซลส์ต้องหาลงวิธีชักชวนจูงใจให้ลูกน้องทำงานให้ละเลิกพฤติกรรมเสี่ยงให้อุบัติเหตุเป็นศูนย์ไปเลย
อุบัติเหตุเป็นศูนย์แต่ยังเสี่ยงอยู่นั่นไม่ยั่งยืน
อุบัติเหตุเป็นศูนย์แต่พฤติกรรมเสี่ยงหมดไปจะยั่งยืนกว่าจงพูดกันให้มากขึ้นฟังกันให้มากขึ้นก็จะสื่อสารรับรู้กันและกันจนเกิดพฤติกรรม ด้วยความเข้าใจอย่าพึ่งตัดสินใจพิพากษาคนอื่นด้วยความเข้าใจของตัวเองจนฟังเขาให้เขาอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไม
เขาจึงเป็นเช่นนั้น การเปิดใจ
สนใจ คลิ๊กเข้าไปดูที่หลักสูตรที่ผมนำเสนอได้ครับ
ผมนำวิชาการที่ได้เรียนรู้ มาปรับ ประยุกต์ใช้ในการทำหลักสูตร จากท่านอาจารย์ทั้งสองที่กล่าวมาด้านบน และพร้อมนำตัวอย่างการทำจริง และเห็นผลมาแล้ว ต้องขอบคุณเพื่อน จป ที่ให้คำแนะนำมาด้วย ซึ่งอบรมเสร็จแล้ว สามารถติดต่อ ขอคำแนะนำ ปรึกษาได้ เพื่อสร้างพฤติกรรมให้ปลอดภัย..
ย้ำอีกครั้ง มีตัวอย่างวิธีการทำ BBS ได้จริง.. เข้าใจง่าย ทำได้จริง เหมาะกับ..สำหรับอุตสาหกรรมโรงงาน สร้างเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัย.... แบบยั่งยืน
ติดต่อจองหลักสูตรอบรมได้ที่ : 089-922-4416 คุณสมชาย , 090-893-6201 คุณจรินทร์
085-510-1555 คุณวินัย , 095-225-8441 คุณสุรสิทธิ์